เทคโนโลยี CNC
แนวคิดในการพัฒนาเครื่องตัดให้เป็นซีเอ็นซี CNC ในปัจจุบันการตัดโลหะแบบแผ่นมีอยู่ด้วยกันหลายวิธีเช่น การตัดโลหะด้วยเลื่อย(Saw cutting), การตัดด้วยเครื่องเลเซอร์ (Laser cutting), การตัดด้วยแก๊ส(Gas cutting), และการตัดด้วยเครื่องตัดพลาสม่า(Plasma cutting) ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ววิธีการตัดโลหะจะมีกระบวนการและวิธีการตัดแบบง่ายๆ คือ ร่างแบบ(Layout) ลง บนแผ่นโลหะนั้นๆ แล้วจึงทำการตัดตามแบบที่ได้ร่างไว้ หรืออาจจะมีอุปกรณ์ช่วยในการตัดบ้างตามความจำเป็น จึงทำให้มีผู้คิดค้นการออกแบบและพัฒนาเครื่องตัดพลาสม่าซีเอ็นซี(Plasma cnc machine cutting) โดยเครื่องตัดพลาสม่าซีเอ็นซี (Plasma cnc) นี้ ควบคุมการทำงานโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถตัดชิ้นงานโลหะได้หลากหลายรูปแบบ หรืองานตัดที่มีความยุ่งยากซับซ้อน หรือต้องตัดชิ้นงานซ้ำๆ เป็นจำนวนมาก
ในปัจจุบันวงการอุตสาหกรรมต่างๆ
ได้มีการพัฒนาและขยายตัวอย่างรวดเร็วมีการนำเข้าเครื่องจักรกล
และอุปการณ์ที่ทันสมัยจากต่างประเทศ
เพื่อช่วยเพิ่มการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
ซึ่งก็เป็นไปตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ
ที่มีอัตราการขยายตัวที่สูงมาก
ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นมามีทั้งจำหน่ายภายในประเทศ
และส่งออกไปต่างประเทศทำให้ผลิตภัณฑ์ต้องได้ตามมาตรฐานที่ที่กำหนดไว้ เช่น
มาตรฐานสากล ISO (International Standardization Organization) หรือ ตามมาตรฐานของเยอรมัน DIN (Deutsche Industries Norm)
แต่ในความเป็นจริงเรายังขาดบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ
ที่จะรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่นำมาใช้ในระบบการผลิต
การพัฒนาทางด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้พัฒนาไปอย่างมาก
การผลิตไมโครชิพสามารถผลิตให้มีขนาดเล็กลง แต่ประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้น
การนำไมโครชิพไปใช้งานที่สำคัญอย่างหนึ่งได้แก่
การใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญของเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น
ใช้เป็นหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) เป็นหน่วยความจำ (RAM & ROM)
ยุคแรกที่มีการนำคอมพิวเตอร์จะเน้นหนักไปทางด้านการจัดเก็บและบันทึกข้อมูล
และการคำนวณขั้นพื้นฐาน
ในระยะหลังได้มีการพัฒนาขีดความสามารถในการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ดี
ขึ้น มีความเร็วในการประมวลผลสูงขึ้น เช่น
การออกแบบชิ้นส่วนและสร้างโปรแกรมสำหรับผลิตชิ้นงาน
ในภายหลังได้มีการเขียนโปรแกรมสำหรับช่วยในการผลิตชิ้นงานด้วยเครื่องจักร
ที่ควบคุมด้วยระบบเชิงตัวเลขขึ้นมา
การรับส่งข้อมูลสำหรับการทำงานของเครื่องจักร สามารถผ่านตัวกลางส่งสัญญาณต่างๆ เช่น แถบกระดาษเจาะรู (Paper Punched Tape) เทปแม่เหล็ก (Magnetic Tape) และแผ่น Micro Floppy Disk หรือจะป้อนข้อมูลโดยตรงที่แป้นพิมพ์ของแผงควบคุม (Key Board) ก็ได้ แต่ก่อนที่จะส่งข้อมูลเพื่อให้เครื่องจักรทำงาน จำเป็นต้องมีการสร้างโปรแกรมการทำงานตามลำดับมาก่อน แล้วทำการตรวจสอบข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นพร้อมกับแก้ไขให้ถูกต้อง ทำให้ลดความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับเครื่องจักรลงเครื่องจักร CNC แต่ละเครื่องนั้นผลิตมาจากหลายบริษัท ซึ่งก็ใช้เทคโนโลยีที่บริษัทตนเป็นคนค้นคิดขึ้นมา ทำให้มีลักษณะการสั่งงานเป็นแบบเฉพาะนอกเหนือไปจากคำสั่งมาตราฐานทั่วไป
ความแตกต่างระหว่างเครื่องจักรกลทั่วไปกับเครื่องจักรกลซีเอ็นซี
เครื่องจักรทั่วไป แท่นเลื่อน
ที่ทำหน้าที่นำชิ้นงานหรือเครื่องมือตัดให้เคลื่อนที่ไปตามรางเลื่อน
โดยการหมุนมือหมุน (Hand Wheel) หรือโดยการใช้กลไกป้อนอัตโนมัติ เช่น
ลูกเบี้ยวในเครื่องกลึงอัตโนมัติ
ซึ่งในขณะเดียวกันนั้นช่างควบคุมเครื่องจะต้องทำหน้าที่อื่นๆ
ที่จำเป็นต้องใช้ในการตัดเฉือนชิ้นงานด้วย
เช่นเปิดและปิดสวิทย์ควบคุมการหมุนของเพลาหัวเครื่อง,
เปิดและปิดสวิทย์สารหล่อเย็น เป็นต้น
ช่างควบคุมต้องใช้วิจารณญานและการตัดสินใจร่วมกัน
การทำงานจะมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุที่มาจากตัวบุคคล
หรือสาเหตุที่เกิดจากเครื่องจักรการผลิตชิ้นงานที่มีรูปร่างเดียวกันจำนวน
มากๆ
จะเกิดค่าพิกัดของชิ้นงานที่แตกต่างกันออกไปแต่ถ้าหากใช้เครื่องจักรซีเอ็น
ซีการผลิตชิ้นงานจำนวนมาก
จะลดเวลาของการผลิตชิ้นงานและรูปทรงที่ได้จะเหมือนกันโดยตลอด การทำงานต่างๆ
จะถูกกำหนดไว้
และยังสามารถนำโปรแกรมนั้นมาใช้ใหม่ได้อีกเมื่อมีการผลิตชิ้นต่อๆ ไปได้อีก
เครื่องจักรซีเอ็นซี การเคลื่อนที่ต่างๆ
ที่จำเป็นในการผลิตชิ้นงานจะทำงานโดยอัตโนมัติด้วยตัวของเครื่องจักรเองโดย
อาศัยข้อมูลจากชุดควบคุม เครื่องจักรจะทำงานตามข้อมูลตัวเลข (Numerical Information) ที่ป้อนให้กับชุดควบคุมของเครื่องจักร CNC ในรูปแบบของรหัส (Code) ที่ชุดควบคุมสามารถเข้าใจได้
ในระบบการขับเคลื่อน จะต้องมีการออกแบบให้รับกับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของเครื่องจักรที่ควบ คุมระบบเชิงตัวเลข เช่น ระบบเฟืองทด เพลาหมุน พร้อมแบริ่งที่มีความเที่ยงตรงสูง ระบบการหล่อลื่น พร้อมกับการระบายความร้อน เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีระบบการจับยึดเครื่องมือที่กำหนดไว้เป็นมาตรฐาน ซึ่งจะแตกต่างจากการจับยึดเครื่องมือของเครื่องจักรทั่วไป
ในระบบการขับเคลื่อน จะต้องมีการออกแบบให้รับกับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของเครื่องจักรที่ควบ คุมระบบเชิงตัวเลข เช่น ระบบเฟืองทด เพลาหมุน พร้อมแบริ่งที่มีความเที่ยงตรงสูง ระบบการหล่อลื่น พร้อมกับการระบายความร้อน เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีระบบการจับยึดเครื่องมือที่กำหนดไว้เป็นมาตรฐาน ซึ่งจะแตกต่างจากการจับยึดเครื่องมือของเครื่องจักรทั่วไป
ความแตกต่างในการใช้เครื่องจักรซีเอ็นซี
เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องจักรที่ใช้ทั่วไปก็คือ
การตัดสินใจในการกำหนดขั้นตอนการทำงานต่างๆ
จะกระทำเพียงครั้งเดียวกล่าวคือจะกระทำในขั้นตอนของการวางแผน
และสร้างโปรแกรมสำหรับควบคุมเครื่องจักรเท่านั้น
หลังจากนั้นโปรแกรมจะถูกนำไปใช้ในการทำงานของเครื่องจักร
สำหรับผลิตชิ้นงานที่ต้องการ โดยสามารถทำการผลิตซ้ำๆ
กันกี่ครั้งก็ได้ตามต้องการนอกเหนือจากโปรแกรมการทำงาน
ซึ่งเปรียบเสมือนการวางแผนการทำงานที่ได้จัดเตรียมขั้นตอนการทำงานทุกขั้น
ตอน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
การผลิตชิ้นงานด้วยเครื่องจักรซีเอ็นซียังช่วยลดเวลาในการทำงานอื่นๆ
ที่จำเป็นด้วย เช่น ลดเวลาการตรวจสอบขนาดของชิ้นงาน
ลดเวลาในการปรับความเร็วรอบของ Spindle เป็นต้น
ขาย เครื่องจักรกล มือสอง เครื่องกลึง เครื่องcnc เครื่องมิลลิ่ง เครื่องกระทุ้ง เครื่องไวร์คัท เครื่องพับเหล็ก เครื่องรีดยาง เครื่องสับยาง
รับ งานไวร์คัท ชิ้นส่วนอะไหล่ ตามต้องการ รับตัดชิ้นส่วนอะไหล่ เหล็ก อลูมิเนียม ทองเหลือง ทองแดง รับพ่นทรายกันสนิมงานต่างๆตามต้องการ รับตัดโลหะด้วยเครื่องไวร์คัท ตามตัวอย่าง/ตามแบบที่ต้องการ
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 088-202-0410,038-942-501
ขาย เครื่องจักรกล มือสอง เครื่องกลึง เครื่องcnc เครื่องมิลลิ่ง เครื่องกระทุ้ง เครื่องไวร์คัท เครื่องพับเหล็ก เครื่องรีดยาง เครื่องสับยาง
รับ งานไวร์คัท ชิ้นส่วนอะไหล่ ตามต้องการ รับตัดชิ้นส่วนอะไหล่ เหล็ก อลูมิเนียม ทองเหลือง ทองแดง รับพ่นทรายกันสนิมงานต่างๆตามต้องการ รับตัดโลหะด้วยเครื่องไวร์คัท ตามตัวอย่าง/ตามแบบที่ต้องการ
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 088-202-0410,038-942-501